มังงะน่าอ่าน 2023

มังงะน่าอ่าน 2023

มังงะน่าอ่าน 2023 ใครที่ยังเลือกกิจกรรมทำในช่วงวันหยุดยาวอยู่ betwixthomeandschool ขอแนะนำมังงะ 6 เล่มที่ต้องอ่านก่อนหมดปี 2023 เพราะในหน้ากระดาษเหล่านั้นเต็มไปด้วยข้อคิดในการใช้ชีวิตดีมากมาย ซึ่งจะเป็นแรงซัพพอร์ตชีวิตในปี 2023 ของทุกคนได้เป็นอย่างดี

มังงะน่าอ่าน 2023 Look Back (Tatsuki Fujimoto)

มังงะน่าอ่าน 2023 ที่สุดของมังงะ One Short (ตอนเดียวจบไม่มีภาคต่อ) ของปี 2022 และของชีวิตเรา ในช่วงเวลาที่มังงะโชเน็นเรื่อง Chainsaw Man กำลังไฮป์อย่างสุดขีด ทั้งยอดขายต่อเล่ม และการถูกนำไปต่อยอดทำเป็นอนิเมะโดยสตูดิโอ MAPPA จนทำให้เกิดคำถามมากมายว่า ‘สมการความเก่งของนักเขียนการ์ตูนที่ชื่อ ‘ฟูจิโมโตะ ทัตสึกิ’ มาจากไหน’ มังงะเรื่อง Look Back มีคำตอบของคำถามนั้นซ่อนอยู่ในรูปแบบของจดหมายที่คุณฟูจิโมโตะเขียนถึงตัวของเขาเองในฐานะของนักเขียนการ์ตูนคนหนึ่ง

เรื่องย่อ : Fujino เด็กนักเรียนหญิงชั้นประถมที่เป็นมือวาดการ์ตูนแก๊กประจำหนังสือพิมพ์ประจำสัปดาห์ของห้อง ถูกอาจารย์ประชั้นไหว้วานขอให้ช่วยแบ่งพื้นที่บนหน้าหนังสือพิมพ์ให้หน่อย เพราะอยากให้เพื่อนที่อยู่ห้องข้าง ๆ ชื่อ Kyomoto ซึ่งเป็นเด็กเก็บตัวกลัวสังคมภายนอกจนไม่มากล้าโรงเรียน ได้วาดการ์ตูนแก๊กด้วยเหมือนกัน … เหตุการณ์ผ่านไปจนถึงวันจบการศึกษาตอนชั้นประถม ฟูจิโนะถูกอาจารย์ไหว้วานอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขาขอให้เธอช่วยเอาใบจบการศึกษาไปให้เคียวโมโตะที่บ้านให้หน่อย แล้วตรงนั้นเอง การพบกันครั้งแรกทำให้ทั้งคู่ได้สานสัมพันธ์แห่งมิตรภาพผ่านการ์ตูนที่วาดด้วยกัน

เป็นเรื่องที่ Recommend มาก ๆ สำหรับคนที่ชื่นชอบอาจารย์ฟูจิโมโตะแล้วอยากทำความรู้จักเขาเพิ่มให้รอบด้านมากขึ้น ความอัจฉริยะในการวางซีนแต่ละช่องที่ให้จังหวะแม่นยำราวกับกำลังดูหนังดี ๆ สักเรื่อง ใน Look Back นั้นเหนือระดับยิ่งกว่า Chainsaw Man เสียอีก คือมีระเบิดเวลาที่พร้อมทำให้น้ำตาร่วงได้ตลอดเวลาเลย แล้วสิ่งหนึ่งที่น่าจะทำให้แฟน ๆ ตกใจมาก คือไม่นึกว่าเขาจะทำแนว Realistic ได้งดงามขนาดนี้ มันมนุษย์แบบที่สุดถึงที่สุดแล้วอะ

Look Back เป็นมังงะที่เสียดสีสิ่งที่สังคมภายนอกมองเข้ามาถึง ‘คนวาดมังงะ’ อยู่ตลอดเวลา ทั้งการสร้างให้สไตล์งานของ 2 ตัวละครหลัก ฟูจิโนะ กับ เคียวโมโตะ ออกมาต่างกันอย่างสุดขั้วเพื่อให้เกิดการเปรียบเทียบ หรือการเอาช่วงเวลารอยต่อสำคัญของชีวิตตอนขึ้นชั้นมัธยม มาตั้งคำถามถึงความไม่มีกินของอาชีพนี้ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นการเสียดสีที่อ้างอิงจากชีวิตจริงของคนทำงานศิลปะทั้งสิ้น และเป็นการปูทางสู่การพูดเรื่องความฝันไปในตัว ถ้าเจอสิ่งเหล่านี้แล้วเราจะทิ้งความฝันมั้ย แล้วถ้าทิ้งความฝันลงไปแล้วครั้งนึง การที่จะกลับมาเริ่มใหม่นั้นเป็นไปได้มั้ยนะ

ถ้าใครเคยอ่านมังงะของอาจารย์ฟูจิโมโตะหลาย ๆ เรื่อง จะเห็นว่าเขาจะหยิบประเด็นเรื่อง ‘การมีชีวิตต่อไปเพื่อทำสิ่งที่ฝันให้สำเร็จ’ ขึ้นมาพูดอยู่เสมอ ใน Look Back เองก็เหมือนกัน ประเด็นนี้ถูกยกขึ้นมาผ่านไดอะล็อคสำคัญในตอนท้ายที่ว่า “ถ้าการวาดการ์ตูนมันไม่สนุกเลย ทำไมฟูจิโนะถึงวาดการ์ตูนล่ะ ?” คำตอบของคำถามนี้ไม่ได้ถูกพูดออกมาจากปากของตัวละครตัวไหน แต่มันถูกตอบไปแล้วตั้งแต่เหตุการณ์ในช่วงต้นเรื่อง จนมาถึงท้ายเรื่องก็เป็นการย้ำคำตอบนั้นให้ชัดเจนขึ้นไปอีกครั้งนึง ซึ่งมันทำเราเชื่ออย่างหมดใจเลยว่า เหตุผลที่อาจารย์ฟูจิโมโตะยังคงวาดการ์ตูนออกมาให้เราได้อ่านกันเรื่อย ๆ มันหมายถึงว่าความฝันของเขามีขึ้นเพื่อต้องการเพียงมีใครสักคนที่อยู่ข้างกันบนเส้นทางเดินนี้ อาจจะเป็นคนอ่านหรือคนรักก็ตามแต่ เหมือนที่ ฟูจิโนะ มี เคียวโมโตะ นั่นเอง

jujutsu kaisen 0 (Gege Akutami) อย่าให้ความรักที่ toxic กลายเป็นกรงขังเราทั้งคู่เอาไว้

เชื่อว่า Jujutsu Kaisen ภาค 0 หรือในชื่อไทยว่า ‘มหาเวทย์ผนึกมาร’ ที่ถูกทำเป็นอนิเมะโดยสตูดิโอ MAPPA (อีกแล้ว) ต้องติดลิสต์เป็นตัวท็อปในดวงใจของใครหลายคนในปี 2022

Jujutsu Kaisen 0 จะเล่าเรื่องย้อนกลับไปก่อนเส้นเรื่องในปัจจุบันของมหาเวทย์ผนึกมารภาคหลัก โดยโฟกัสที่เรื่องราวตอนเข้าเป็นนักเรียนใหม่ในโรงเรียนไสยเวทของ Yuta Okkotsu หนึ่งในนักเรียนระดับพิเศษที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในคนที่แข็งแกร่งที่สุดของโลกไสยเวท กับพลังของเขาที่มีความเกี่ยวโยงกับคำสาปหลังจากที่คนรักตอนประถม Rika Orimoto ได้จากไป

ในช่วงท้าย ๆ ของ Jujutsu Kaisen 0 เนื้อเรื่องได้ถูกเฉลยว่าแท้จริงแล้วพลังอันยิ่งใหญ่ของยูตะ เกิดจากคำสาปอันแรงกล้าซึ่งทำให้ริกะ (คนรักตอนประถม) กลายเป็นวิญญาณร้ายคอยกลับมาช่วยในทุกครั้งที่เขาเรียกเสมอ กล่าวได้ว่า ‘ความรัก’ คือชื่อของคำสาปนั้น มันเป็นคำสาปชนิดที่ทำให้ริกะต้องติดตามเขาไปตลอดชีวิตตั้งแต่วันที่เธอจากไป และเป็นคำสาปนี้เองที่ทำร้ายชีวิตของทั้งคู่มาโดยตลอดมาจะอยู่คนละฝั่งของโลกก็ตาม สามารถพูดได้เลยว่า ‘ความรัก’ ที่สวยงามในตอนเด็ก เหลือเพียงดอกกุหลาบแห่งความ Toxic ไปแล้ว แต่โชคยังดีที่คำสาปนี้ถูกแก้ไขได้ในท้ายที่สุด เมื่อยูตะรู้แล้วว่าตัวเองเป็นคนที่ใช้คำสาปกักขังริกะไม่ให้หายไปไหนมาโดยตลอด ยูตะขอให้ริกะจากไป เป็นการบอกเลิกในรูปแบบที่ดีที่สุด เพราะต่างคนต่างเข้าใจความ Toxic ที่เกิดขึ้นในรักครั้งนี้ และเปิดประตูของกรงขังเดินออกไปจากกัน

Mob Psycho 100 (ONE) การมีพลังวิเศษไม่ใช่สิ่งที่วิเศษเสมอไป ถ้าเราไม่ได้เข้าใจสิ่งที่อยู่ในชีวิตของตัวเองเลย

ถึงเวอร์ชั่นมังงะของการ์ตูนเรื่องนี้จะจบล่วงหน้าไปก่อนแล้ว แต่ฉบับอนิเมะนั้นเพิ่งฉายจบในปี 2022 นี้เอง หลังจากที่ออกฉายครั้งแรกในปี 2016 ก็ใช้เวลาไปถึง 6 ปี ! ใครที่ยังไม่ได้ดูก็ขอเชิญชวนมาก ๆ (ใน Netflix มี) เป็นการ์ตูนน้ำดีที่สตูดิโอ Bones ท๊อปฟอร์มเรื่องงานภาพแบบสุดพลัง

Mob Psycho 100 เล่าเรื่องราวของเด็กชายวัยมัธยมชื่อ Kageyama Shigeo แต่เพื่อน ๆ ให้ฉายาเขาว่า Mob เด็กหนุ่มคนนี้เป็นหนึ่งในไม่กี่คนบนโลกที่มีพลังจิตวิเศษ สามารถมองเห็นวิญญาณ ขับไล่ผี และปกป้องผู้คนบนโลกได้ เพราะเขาก็เป็นอีกไม่กี่คนบนโลกอีกเช่นกันที่มีพลังแรงกล้ายิ่งกว่าใคร

สิ่งที่ยอดเยี่ยมมากใน Mob Psycho 100 นอกจากความสนุกแบบการ์ตูนโชเน็น หรือการดีไซน์พลังจิตเท่ ๆ ต่าง ๆ นา ๆ แล้ว คือการตั้งประเด็นคำถามที่ว่า ‘พลังจิตไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลย เพราะการใช้ชีวิตคือการเข้าใจสิ่งต่าง ๆ ต่างหากล่ะ’ ตลอดทั้งเรื่องนี้ เราจะได้เห็นม็อบปฎิเสธความดีงามถึงพลังจิตของตัวเองซึ่งคนอื่นชื่นชมมาโดยตลอด เหตุผลนั้นง่ายมาก เพราะเขาเป็นวัยรุ่นคนนึงที่ต้องการมีเพื่อนสักคนที่เข้าใจกัน / ต้องการมีสุขภาพอันแข็งแรง / ไปจนถึงมีความกล้าพอจะบอกความในใจกับคนที่แอบชอบออกไป และพลังจิตไม่ได้อยู่ในสมการตัวช่วยให้สำเร็จในสิ่งเหล่านั้นได้เลยแม้แต่ข้อเดียว ทั้งหมดต้องเริ่มจากตัวของเขาเอง

Kotaro Lives Alone (Mami Tsumura)ไม่มีใครที่สมควรจะโดดเดี่ยวตัวคนเดียวบนโลกใบนี้หรอก

ที่สุดของมังงะแห่งความงดงามในชีวิตปี 2022 ของเรา เข้าใจได้ง่าย ๆ ในตอนที่อ่านจบเล่ม 1 เลยว่าทำไมมันถึงไฮป์ในประเทศไทยได้ขนาดนั้น มังงะเรื่อง ‘โคทาโร่ชอบอยู่คนเดียว (Kotaro Lives Alone)’ เล่าเรื่องราวของเด็กนักเรียนชั้นอนุบาลชื่อ Kotaro Sato ที่เช่าอพาร์ตเมนต์อยู่ด้วยตัวคนเดียว กับเหล่าเพื่อนบ้านสุดเปิ่นที่มีทั้งนักเขียนการ์ตูนผู้ไม่ประสบความสำเร็จ / คุณลุงรักเด็กที่หน้าดุเหมือนยากูซ่า / พี่สาวบาร์โฮสต์ผู้ที่ความรักดี ๆ ไม่เคยผ่านเข้ามาเลย แต่คำถามสำคัญคือ “ทำไมเด็กชั้นอนุบาลถึงต้องอยู่ตัวคนเดียว” อ่านมังงะเรื่องนี้แล้วแอบคิดถึงวรรณกรรมเรื่อง ‘เจ้าชายน้อย’ อยู่ไม่น้อย มันคือการหยิบประเด็นความผิดพลาดของชีวิตซึ่งเมื่อเราโตขึ้นแล้วไม่สามารถมองเห็นได้ ต้องให้เด็กเป็นคนชี้ให้ดู ขอยกตัวอย่างตอนโปรดที่เราชอบมากขึ้นมาให้อ่านกัน

มันจะมีตอนนึงที่โคทาโร่เดินหกล้มเป็นแผลที่เข่า จึงพยายามติดพลาสเตอร์ด้วยตัวเอง เมื่อติดเสร็จเขาก็เรียกหนุ่มนักวาดการ์ตูนข้างห้องให้มาดูว่าตัวเองเก่งมั้ย พ่อหนุ่มคนนี้ก็งงว่าทำไมถึงต้องมาโชว์ให้ดูนะ ก่อนจะคิดได้ทีหลังว่า เออจริง ๆ แล้วคนเราทุกคนต้องการให้คนที่มีความหมายกับตัวเองชื่นชมในสิ่งที่เราสำเร็จนี่นา แล้วช่วงวัยของโคทาโร่ที่เด็กขนาดนั้นก็ยิ่งต้องการเป็นพิเศษไม่ใช่หรอ คิดได้ดังนั้น ชายหนุ่มนักวาดการ์ตูนก็วาดตัวละครโปรดของโคทาโร่ให้ที่พลาสเตอร์เป็นของขวัญ แล้วรอยยิ้มของโคทาโร่ที่แทบไม่เคยมีใครเห็นมาก่อนก็เผยออกมาให้เขา และมันทำให้เขาได้รู้อย่างชัดเจนเลยว่า สิ่งที่เขาพยายามทำมาตลอดชีวิตก็ต้องการใครสักคนชื่นชมเหมือนกัน มีเหตุการณ์ประทับใจมากมายที่เกิดขึ้นในมังงะเรื่องนี้ พร้อมกับบทเรียนที่คนอ่านไม่มีทางลืมได้เลยว่าการขอความช่วยเหลือบ้างในบางเรื่องที่ตัวเองทำไม่ได้ไม่ใช่เรื่องน่าอาย เราเองก็ต้องมีใครสักคนคอยอยู่บนโลกนี้ไปด้วยกัน

Dandadan (Tatsu Yukinobu) แค่ใครสักคนบนโลกที่จะไม่ทำให้เรากลายเป็น ‘คนนอก’ อีกต่อไป

นี่คือมังงะว่าด้วยเรื่องของผี สิ่งลี้ลับที่สาเหตุไม่ได้ และวิญญาณ เล่าผ่านเด็กหนุ่มวัยมัธยมใส่แว่นสุดเนิร์ดชื่อ Ken Takakura (aka.Okarun) ซึ่งเขาไม่ได้เนิร์ดเรียนนะ แต่เป็นเนิร์ดเรื่องของมนุษย์ต่างดาวและ UFO และเพราะตัวตนนั้นเอง ทำให้เขาถูกแกล้งมาตั้งแต่เด็ก ๆ แต่แล้ววันหนึ่ง โอคารุนถูกช่วยจากการกลั่นแกล้งโดย Momo Ayase หญิงสาวห้องเรียนข้าง ๆ ทั้งคู่ได้คุยกันพร้อมกับพบว่าโมโมะเชื่อเรื่องผีแต่ไม่เข้าใจในมนุษย์ต่างดาว ในขณะที่โอคารุนเชื่อเรื่องวิญญาณหมดใจแต่เรื่องผีเป็นสิ่งไร้สาระสำหรับเขา การผจญภัยที่มีเรื่องของ UFO, คุณยายสปีด ก็เริ่มต้นขึ้น

สิ่งที่เราอยากให้คนอ่านทุกคนรู้ก่อนเลยก็คืออาจารย์ทัทซึเคยเป็นผู้ช่วยวาดของ Tatsuki Fujimoto ในตอนที่เขาลงมือทำงาน Chainsaw Man มาก่อน ก็เรียกว่าใช้ผู้ช่วยที่คาแรคเตอร์ดีไซน์จัดสุด ๆ ดีใจที่สุดท้ายแล้วคุณทัทซึได้มีผลงานรวมเล่มขนาดยาวเป็นของตัวเอง

จากเรื่องย่อก็ต้องบอกว่าใครที่กำลังเดาว่า Dandadan เป็นมังงะโชเน็นผจญภัยต่อสู้ล่ะก็ ใช่ครับเดาไม่ผิดหรอก แล้วเขาก็ทำในพาร์ทนั้นได้สนุกเร้าใจด้วย ทั้งมีฉาก service ให้หัวใจพอกระชุ่มกระช่วย ฉากต่อสู้สุดอลังการงานคราฟต์ไม่ผิดหวังเลยสักครั้งที่มีการต่อสู้เกิดขึ้น แต่สิ่งที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน คือการใส่ประเด็นของการเป็น ‘คนนอก’ มาตลอดชีวิต ได้แบบไม่พยายามยัดเยียดจนเกินไป เล่าผ่านความสัมพันธ์ของ friend zone ระหว่างโมโมะกับโอคารุนได้น่ารักมาก

Summer Time Rendering (Yasuki Tanaka) เพราะเวลาของมนุษย์มีจำกัด อย่าใช้มันไปกับเรื่องที่จะเสียดายทีหลัง

เรื่องย่อ : Shinpei Ajiro เดินทางกลับบ้านเกิดที่อยู่บนเกาะห่างไกลจากเมืองใหญ่ในโตเกียว เพราะต้องไปร่วมงานศพของ Ushio Kofune เพื่อนสาวที่สนิทกันมากตอนวัยเด็ก แต่ผิดใจกันในวันที่ชินเปตัดสินใจมุ่งหน้าสู่โตเกียวเพื่อทำตามความฝันของตัวเอง แต่ทว่า เบื้องหลังการตายของอุชิโอะมีอะไรลึกลับซับซ้อนมากกว่าการจมน้ำ และมันเกี่ยวพันถึงชินเปกับชีวิตของทุกคนบนเกาะนั้น

อยากจะขอเล่าเรื่องย่อเอาไว้แค่นี้ ไม่อยากสปอยล์เลย เพราะความสนุกของมังงะเรื่อง ‘ปริศนาบ้านเก่าเงามรณะ (Summer Time Rendering)’ ขึ้นอยู่กับความไม่รู้อะไร เอาเป็นว่าถ้าใครที่ชอบหนังเรื่อง Butterfly Effect (2004) คือห้ามพลาดเด็ดขาด ! แล้วใครที่กลัวอ่านมังงะไม่จบทันปีใหม่ เวอร์ชั้นอนิเมะใน Disney+ ก็ดีแบบสุด ๆ แนะนำเหมือนกันครับผม

สิ่งที่เราได้เรียนรู้จากการ์ตูนเรื่องนี้ คือสิ่งที่ตัวเอกของเรื่องชินเปได้เข้าใจหลังผ่านเหตุการณ์เลวร้ายทั้งหมดไปจนถึงบทสรุป คือ ‘เวลา’ ในชีวิตของมนุษย์นั้นมีจำกัด ผู้คนที่รัก สถานที่ที่อยากใช้ชีวิต ความฝันที่ต้องทำให้สำเร็จ ถ้าตัดสินใจจะทำอะไรก็ขอให้เลือกให้ดี อย่าได้เสียเวลาไปกับเรื่องที่จะทำร้ายตัวเองกับคนที่เรารักเป็นอันขาด

 

บทความที่เกี่ยวข้อง